ให้เท่ากับได้ GIVE BLOOD SAVE LIFE คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต และ สถานที่รับบริจาคโลหิต


สวัสดีค่ะทุกคน 
เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดในช่วงนี้ส่งผลกระทบให้ สถานพยาบาล
โรงพยาบาล และ สภากาชาดไทย
เลือดลดลงเป็นจำนวนมาก
จึงอยากจะขอเชิญชวน มาร่วมกันบริจาคโรหิต
เพื่อให้เลือดเพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วย
เราได้นำ 
สถานที่รับบริจาคโลหิตและ คุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิตมาฝากกันค่ะ 


❤..........❤..........❤..........❤..........❤

สถานที่รับบริจาคโลหิต


สภากาชาดไทย

1584913258 90198515 2597601717017572 91310429187342336 o
CR.รูปภาพจาก
Facebook :
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สามารถบริจาคโลหิตได้ที่

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ศูนย์รับบริจาคโลหิตและพลาสมา
สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม บางแค
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร02 256 4300



โรงพยาบาลราชวิถี

1584911674 90175296 1374872996017580 8069009051029078016 o
CR.รูปภาพ
Facebook : โรงพยาบาลราชวิถี

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

นอกจากนี้
ทางโรงพยาบาลยังมีหน่วยรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่
จึงขอเชิญชวนองค์กร หน่วยงาน หรือบริษัท
ที่มีจำนวนผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป
ติดต่อขอให้ทางโรงพยาบาลออกหน่วยเคลื่อนที่
ไปรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่ได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02 354 8108 ต่อ 3026

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

1584914277 90051622 2938417986219976 8079704485963759616 o
CR.รูปภาพจาก
Facebook :
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่



โรงพยาบาลศิริราช

1584915536 90074832 2908066165903037 5394572747336581120 n
CR.รูปภาพจาก
Facebook :
Siriraj Piyamaharajkarun Hospital

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่



โรงพยาบาลรามาธิบดี

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดลรามาธิบดีเพื่อผู้ป่วยและสุขภาพ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ห้องบริจาคโลหิต โรงพยาบาลรามาธิบดี

ชั้น 2 อาคารหลัก (อาคาร 1)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร
02 201 1229 ต่อ 202

ชั้น 3 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร
02 200 4208


คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต


1.
อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ผู้ที่มีอายุ 17 ปี

ไม่ถึง 18 ปี ต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง

2.
ผู้บริจาคโลหิตเป็นครั้งแรก ถ้าอายุเกิน 55 ปี – 60 ปี
และให้อยู่ในดุลพินิจของแพทย์ และ พยาบาล

3.
น้ำหนักตั้งแต่ 45 กิโลกรัม ขึ้นไป

4.
สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมที่จะบริจาคโลหิต

5.
นอนหลับพักผ่อนเพียงพอในเวลาปกติของตนเอง
ในคืนก่อนวันที่มาบริจาคโลหิต

6.
ไม่มีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคตับ
โรคปอด 
โรคเลือด 
โรคมะเร็ง
หรือมีภาวะโลหิตออกง่ายและหยุดยาก


7.
ไม่มีอาการท้องเสีย ท้องร่วง ใน 7 วันที่ผ่านมา

8.
สตรีไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือน
ที่ผ่านมา



9.
น้ำหนักต้องไม่ลดผิดปกติในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา
โดยไม่ทราบสาเหตุ


10. 
หากรับประทานยาแอสไพริน
ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดอื่น ๆ
ต้องหยุดยามาแล้ว 3 วัน
ถ้าเป็นยาแก้อักเสบหรือยาอื่น ๆ
ต้องหยุดยามาแล้ว 7 วัน


11.
ไม่เป็นโรคหอบหืด, ผิวหนังเรื้อรัง
วัณโรค หรือภูมิแพ้อื่น ๆ


12.
ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง, เบาหวาน
หัวใจ, ตับ, ไต, มะเร็ง, 
ไทรอยด์
โลหิตออกง่าย-หยุดยาก หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ



13.
หากถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนหรือรักษารากฟัน
ต้องทิ้งระยะอย่างน้อย 3 วัน กรณีผ่าฟันคุด
ให้เว้นอย่างน้อย 7 วัน
จนกว่าแผลจะหายสนิทไม่มีอาการอักเสบ


14.
หากเคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ต้องเกิน 6 เดือน
ผ่าตัดเล็ก ต้องเกิน 7 วัน


15.ท่านหรือคู่ครองของท่านต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง
ทางเพศสัมพันธ์


16.
ต้องไม่มีประวัติยาเสพติด หรือเพิ่งพ้นโทษ
ต้องเกิน 3 ปี และมีสุขภาพดี


17.
หากเจาะหู, สัก, ลบรอยสักหรือฝังเข็มในการรักษา
โดยใช้เครื่อมือร่วมกัน
หรือในสถานที่ที่มีคุณภาพความสะอาดต่ำ
อาจติดเชื้อโรคทางกระแสโลหิต
จึงควรงดบริจาคอย่างน้อย 1 ปี

แต่หากกระทำด้วยเครื่องมือทางการแพทย์
ที่สะอาดปราศจากเชื้อ โดยผู้ชำนาญ
และเป็นวัสดุที่ใช้ครั้งเดียวเฉพาะตัว
เว้นระยะเวลาให้แผลอักเสบหายสนิทอย่างน้อย 7 วัน


18.
หากมีประวัติเจ็บป่วยและได้รับโลหิตของผู้อื่น

ต้องเกิน 1 ปี

19.
หากมีประวัติเป็นมาลาเรีย
ถ้าเคยเป็นต้องหายมาแล้วเกิน 3 ปี
หากเคยเข้าไปในพื้นที่ ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุม
ต้องทิ้งระยะอย่างน้อยเกิน 1 ปี จึงบริจาคโลหิตได้


20.
หากเคยพำนักอยู่ในประเทศอังกฤษรวมระยะเวลา 3 เดือน
ในระหว่างปี พ.ศ.2523-2539
หรือ เคยพำนักในยุโรปรวมระยะเวลา 5 ปี

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523-ปัจจุบัน งดรับบริจาคโลหิตถาวร

21.
หากเคยได้รับวัคซีน เพื่อป้องกันโรค หรือเคยรับเซรุ่ม
ระยะเวลาที่งดรับบริจาคโลหิตขึ้นกับชนิดขอบวัคซีน
หรือ เซรุ่ม


22.
สตรีอยู่ระหว่างมีรอบเดือน
ไม่เป็นข้อห้ามในการบริจาคโลหิต

ถ้าขณะนั้นสุขภาพแข็งแรง
มีโลหิตประจำเดือนไม่มากกว่าปกติ

ไม่มีอาการอ่อนเพลียใด ๆ
ตรวจความเข้มข้นโลหิตผ่านก็สามารถบริจาคโลหิตได้

23.
ก่อนบริจาคโลหิต ควรงดอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่
ข้าวข้าวหมู ของทอด ของหวาน แกงกะทิต่าง ๆ เป็นต้น



CR.ข้อมูลจาก สภากาชาดไทย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่



❤..........❤..........❤..........❤..........❤

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คนรุ่นใหม่เขาไม่ Bully กันแล้วนะจ๊ะ รู้ยัง

ไหว้พระขอพร และ มุมถ่ายรูปสุดชิค

Quote about life ข้อคิด คำคม ความหมาย ดี ๆ